"โอกาสในการพัฒนาทักษะการทำอาหารของวัยรุ่นอาจส่งผลดีในระยะยาวต่อความเป็นอยู่ที่ดีทางโภชนาการ" ดร. อัตเตอร์กล่าว "ครอบครัว ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโภชนาการ นักการศึกษา หน่วยงานชุมชน และผู้ให้ทุนสามารถลงทุนด้านคหกรรมศาสตร์และการศึกษาด้าน การทำอาหาร ต่อไปได้ โดยรู้ว่าผลประโยชน์อาจไม่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่จนกว่าคนหนุ่มสาวจะพัฒนาตนเองมากขึ้นและใช้ชีวิตอย่างอิสระ"ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่รับรู้ว่าทักษะการทำอาหารของพวกเขาเพียงพอเมื่ออายุ 18-23 ปี โดยผู้ใหญ่ประมาณหนึ่งในสี่รายงานว่าทักษะการทำอาหารของพวกเขาเพียงพอแล้ว ไม่มีความแตกต่างในการรับรู้ทักษะการทำอาหารตามเพศ เชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ วุฒิการศึกษา หรืออายุ การรับรู้ทักษะการทำอาหารที่เพียงพอสามารถทำนายตัวบ่งชี้หลายตัวของผลลัพธ์ทางโภชนาการในภายหลังในวัยผู้ใหญ่ รวมถึงโอกาสมากขึ้นในการเตรียมอาหารด้วยผักเกือบทุกวัน และการบริโภคอาหารจานด่วนน้อยลง หากผู้ที่เห็นว่าทักษะการทำอาหารของตนเพียงพอมีครอบครัว พวกเขาจะรับประทานอาหารร่วมกันในครอบครัวบ่อยขึ้น รับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดบ่อยน้อยลง และมีอุปสรรคในการเตรียมอาหารน้อยลง